ฮิโรชิม่า ที่เคารพ

ฮิโรชิม่า ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะที่กว้างใหญ่ไพศาล เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ โศกนาฏกรรมอันเลวร้าย ในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เนื่องจากในอดีต จังหวัดฮิโรชิม่า เป็นเมืองแรก ที่ถูกทิ้งปรมณูด้วยเครื่องบิน B-29 จากอเมริกา ในวันที่ 6 สิงหาคม 1945 เพื่อเป็นการเอาชนะญี่ปุ่น ที่สร้างสงครามไปในหลายประเทศ ความสูญเสียครั้งนั้นทำให้ฮิโรชิม่ากลายเป็นที่ตั้งอนุสรณ์สถานสันติภาพเพื่อลำลึกถึงอดีตที่สงครามทำให้สูญเสียแต่การสิ้นสุดสงครามทำให้มีสันติภาพ

จังหวัดฮิโรชิม่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่มีร่องประวัติศาสตร์ ที่มีหลายคนอยากมาท่องเที่ยว เพื่อศึกษาและพักผ่อน เพราะมีทั้งธรรมชาติทั้งภูเขาและทะเล และยังมีอนุสรณ์สถานสันติภาพและอนุสาวรีย์ซาดาโกะ เด็กหญิงพับนกกระเรียนในตำนาน ซึ่งเป็นตัวแทนเรื่องเล่าที่สร้างปรัชญาคำสอนให้มีความหวังและความพยายามแม้จะวินาทีสุดท้ายของชีวิต

สถานที่ทั้งสอง น่าสนใจ และมีรายละเอียดดังนี้

1.อนุสรณ์สันติภาพฮิโรชิมะ (Hiroshima Peace Memorial) หรือแปลว่า โดมปรมณู ซึ่งเป็นที่ ๆ ใกล้กับเป้าหมายที่ต้องการทิ้งระเบิดมากที่สุด จนอาคารแห่งนี้ได้กลายเป็นซากหักพัง

   วันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2510 ได้มีการซ่อมแซม โดมปรมณูแห่งนี้เป็นครั้งแรก หลังจากที่มีการถกเถียงกันอยู่นานว่าจะซ่อมแซมหรือทำลาย เพราะมีชาวญี่ปุ่นบางส่วนรู้สึกสะเทือนใจเมื่อได้เห็นอาคารแห่งนี้ ที่โดนภัยสงครามแสนน่ากลัว สุดท้ายจึงซ่อมแซมแล้วเสร็จครั้งแรก วันที่ 5 สิงหาคม 2010 โดยการระดมทุนจากประชาชน เพราะสรุปแล้ว ได้ลงความคิดเห็นกันว่า ควรเก็บอาคารนี้ไว้เป็นเครื่องเตือนใจถึงพิษสงคราม สนับสนุนให้มีสันติภาพและเป็นเครื่องหมายต่อต้านปรมณู ในปี 2539 อนุสรณ์สถานสันติภาพ ได้รับการ จดทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย ในปี 2543 ได้มีการ อนุมัติให้สร้างศูนย์การประชุมพาณิชยกรรมแห่งฮิโรชิมะ ในบริเวณเดียวกันจึงเป็นสถานที่ที่สำคัญของเมืองนี้

2. อนุสาวรีย์ซาดาโกะ (Children’s Peace Monument) อนุสาวรีย์แห่งนี้ สร้างให้แก่ ด.ญ.ซาดาโกะ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธปรมณู ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เล่าต่อกันมาว่า ในวันที่ปรณูถูกทิ้งท่ามกลางเมืองฮิโรชิม่า ด.ญ.ซาดาโกะมีอายุเพียง 2 ขวบ เธอได้ใช้ชีวิตต่อมา จนถึงวัยวัย 12 ปี เธอมีอนาคตที่ดีเป็นนักวิ่งของโรงเรียนแต่ต่อมามีอาการป่วยหนักจากอาการมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่เกิดจากพิษปรมณูที่มีกัมมันตรังสีร้ายแรงในสมัยนั้นมีคนเป็นโรคนี้หลายคนและส่วนใหญ่ต้องจบชีวิตลงไปในท้ายที่สุด

แต่ซาดาโกะก็ยังไม่หมดหวังและเชื่อในตำนานญี่ปุ่นที่ว่าถ้าหากพับนกกระเรียนครบหนึ่งพันตัวจะทำให้ขอพรที่เป็นจริงได้หนึ่งข้อเธอตั้งใจจะพับนกกระเรียนเพื่อขอพรให้มีชีวิตต่อไปแต่อนิจจาสุดท้ายซาดาโกะทนพิษของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวไม่ไหวเสียชีวิตลงในวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1955 สิ่งที่น่าทึ่งคือ ซาดาโกะ ได้พับนกกระเรียนมากกว่าพันตัว  บ่งบอกถึงความพยายามของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แม้สถานการณ์จะดูสิ้นหวังแต่เธอก็ไม่ย่อท้อ

อย่างไรก็ดีเพื่อนร่วมชั้นของเธอได้ร่วมแรง ร่วมใจกัน ช่วยกันพับนกระเรียนพันตัวเพื่อเป็นการไว้อาลัย  เรื่องนี้เป็นเรื่องสะเทือนใจและตราตรึงใจชาวญี่ปุ่นในคราวเดียวกันรูปแบบของอนุสาวรีย์ เป็นเด็กผู้หญิงที่ชูมือขึ้นไปข้างลำตัว ยกแขนขึ้นเหนือศรีษะและมีนกกระเรียนตัวใหญ่ในมือ พร้อมกับมีข้อความ เป็นคำอธิฐานว่า “นี่คือคำร้องขอของเรา นี่คือคำภาวนาของเรา สันติภาพจงบังเกิดขึ้นบนโลก…” ฮิโรชิม่า ที่เคารพ ขอบคุณที่หลงเหลือเรื่องราว เป็นเครื่องเตือนใจของ พิษสงคราม และความหวังอันงดงามของสันติภาพ ให้แก่พวกเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราคงจะไม่ต้องมีประวัติศาสตร์ด้านสงครามเพิ่มขึ้นอีก

# โตเกียวดิสนี่ย์แลนด์