โทกูชิมะ มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติทั้งป่าเขาและสายน้ำ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตรากตรำคร่ำเคร่งกับงานและปัญหาชีวิตมาเป็นเวลานาน การได้ออก

โทกูชิมะ มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติทั้งป่าเขาและสายน้ำ

โทกูชิมะ มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติทั้งป่าเขาและสายน้ำ

                หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตรากตรำคร่ำเคร่งกับงานและปัญหาชีวิตมาเป็นเวลานาน การได้ออกจากสถานที่เดิมๆ เพื่อหาเวลาพักผ่อนก็คงจะดีไม่น้อย สถานที่สำหรับพักร่างกายและจิตใจก็ต้องเป็นธรรมชาติที่อุมดมสมบูรณ์ มีน้ำใสๆ มีท้องฟ้าสีสด และออกซิเจนบริสุทธิ์ที่ไม่มีวันหมด ซึ่งคุณไม่ต้องไปหาสถานที่นั้นจากไหนเลย แค่ไปเที่ยวญี่ปุ่นในจังหวัดเล็กๆ อย่าง “โทกูชิมะ” นี่เอง

“โทกูชิมะ” เมืองแห่งธรรมชาติที่จะทำให้คุณต้องมนต์

                 โทกูชิมะ คือจังหวัดหนึ่งของญี่ปุ่น อยู่บริเวณทิศตะวันออกของเกาะชิโกกุ และทิศใต้ของจังหวัดนี้ก็ติดกับมหาสมุทรแปรซิฟิกด้วย จังหวัดโทกูชิมะเป็นหนึ่งในจังหวัดของภูมิภาคชิโกกุที่มีธรรมชาติอันงดงามและอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ของชาติหลงเหลืออยู่อีกหลายแห่งด้วย

                   มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของโทกูชิมะที่ไม่ว่าจะชาวต่างชาติหรือชาวญี่ปุ่นเองก็อยากจะมาเยือนสักครั้งก็คือ “ช่องแคบนารุโตะ” ที่สะพานโอนารุโตะนั่นเอง สายอนิเมะอย่าเพิ่งเข้าใจผิดไป เหตุที่ช่องแคบและสะพานนี้มีชื่อว่า “นารุโตะ” ก็เพราะบริเวณช่องแคบนี้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างกระแสน้ำวนซึ่งมีลักษณะเป็นขดๆ วนๆ ตามความหมายของคำว่านารุโตะนั่นเอง โดยวงน้ำวนจะเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับกระแสน้ำในช่วงนั้นๆ ด้วย นักท่องเที่ยวที่อยากจะมาชมน้ำวนแห่งนี้สามารถเลือกเช่ารถบัสเพื่อชมจากมุมสูงบนสะพาน หรือจะเลือกชมแบบใกล้ชิดโดยการเช่าเรื่องก็ได้เช่นกัน

                   หากการมาเที่ยวญี่ปุ่นของคุณไม่ได้สัมผัสกับของเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ก็คงเหมือนไม่ได้มาญี่ปุ่น ที่โทกูชิมะแห่งนี้มีสะพานเถาวัลย์ที่มีชื่อเสียงมากๆ คือ “สะพานคาซูระบาชิ” สะพานเถาวัลย์เก่าแก่อายุมากกว่า 1,000 ปี ซึ่งชาวบ้านในสมัยก่อนสร้างเอาไว้ใช้งานจริงๆ ปัจจุบันนักท่องเที่ยวก็สามารถขึ้นไปเดินเล่นบนสะพานแห่งนี้ได้ ไม่ต้องกลัวว่าจะอันตราย เพราะเจ้าหน้าที่เขาได้ทำการเสริมสายเคเบิลเพื่อสร้างความแข็งแรงให้สะพานเรียบร้อยแล้ว

โทกูชิมะ มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติทั้งป่าเขาและสายน้ำ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตรากตรำคร่ำเคร่งกับงานและปัญหาชีวิตมาเป็นเวลานาน การได้ออก

                    ใครที่ยังเสพไอธรรมชาติไม่พออยากถูกขุนเขาและแม่น้ำโอบกอดก็ลองไปล่องเรือรับกลิ่นไอของแม่น้ำและป่าเขาที่ “หุบเขาโอโบเกะและโคโบเคะ” ดูเลย กระแสน้ำที่ไม่แรงมากบวกกับวิวธรรมชาติสองข้างทางที่โอบล้อมอยู่รอบตัวจะยิ่งทำให้กายใจคุณฟื้นฟูได้รวดเร็ว ยิ่งใครไปช่วงซากุระบานหรือช่วงใบไม้แดงก็จะได้เห็นสีสันของธรรมชาติมากขึ้นด้วย