เที่ยวแบบ Extreme เบา ๆ ที่ภูเขาฮักโกดะ

เที่ยวแบบ Extreme เบา ที่ภูเขาฮักโกดะ

คุณจะเชื่อหรือไม่ถ้าพูดถึงภูเขาฮักโกดะที่จังหวัดอาโอโมริ  ว่าที่นี่เป็นเหมือนเมืองแห่งสวรรค์และเมืองแห่งนรก ในเมืองเดียวกัน เห็นเปรียบเทียบปิดท้ายเมืองซะน่ากลัวขนาดนี้จริงๆแล้ว Admin ไม่ได้มีอคตินะ  แต่อยากให้ดูมีความน่าสนใจต่างหาก สำหรับสาย extreme แล้วต้องชอบที่นี่แน่ๆ  เพราะที่นี่เป็นภูเขาที่สูงและกว้างไกล และไม่ใด้เป็นภูเขาธรรมดา แต่ว่าเป็นกลุ่มภูเขาไฟ  ที่กว้างใหญ่ไพศาลตั้งแต่เหนือไปจนถึงทางใต้ของอาโอโมริเลยทีเดียว

เที่ยวแบบ Extreme เบา ๆ ที่ภูเขาฮักโกดะ

พื้นที่แห่งนี้จะมีไอร้อนภายใต้พื้นดินที่เกิดจากความร้อนของภูเขาไฟพวยพุ่งออกมาซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าน้ำที่พวยพุ่งออกมานี้จะช่วยทำให้พืชและต้นไม้ที่อยู่ภายใต้พื้นดินแห่งนี้เติบโตสูงขึ้นมาได้ด้วย  การชื่นชมธรรมชาติแห่งนี้โดยรอบถ้าต้องการเห็นภาพทิวทัศน์แบบพาโนราม่าแนะนำให้ขึ้นกระเช้าลอยฟ้าซึ่งทางภูเขาแห่งนี้จะมีการจัดเตรียมเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปีเนื่องจากที่นี่เที่ยวได้ทุกฤดูและแต่ละฤดูจะมีความงดงามและกิจกรรมการท่องเที่ยวที่ต่างกันออกไป กระเช้าลอยฟ้าชมทัศนียภาพของภูเขาจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 9:00 น ถึง 16:20  

  • ตัวผู้ใหญ่ แบบไปกลับ อยู่ที่ 2,000 เยน
  • ตั๋วผู้ใหญ่ขาไปอย่างเดียว อยู่ที่ 1,250 เยน
  • ตัวแด็กแบบ ไปกลับ อยู่ที่ 700 เยน
  • ตั๋วเด็กแบบขาไปอย่างเดียว อยู่ที่ 450 เยน

เนื่องจากบางคนต้องการนั่งกระเช้าลอยฟ้าเฉพาะขาไปเพื่อดูทัศนียภาพ  แต่กลับลงมาด้วยกันเล่นสกีลงมาจากเขา จึงขายตั๋ว 2 แบบ

การท่องเที่ยว 3 ฤดู

  • สามารถชมทัศนียภาพที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสีเขียวได้ในช่วงฤดูร้อน
  • ส่วนฤดูใบไม้ร่วงก็จะมาชมใบไม้เปลี่ยนสีกันได้ที่นี่
  • ในฤดูหนาวจะมีหิมะปกคลุมเต็มไปหมดและที่นี่เองจะเป็นสถานที่สำหรับเล่นสกี

การเล่นสกีแห่งนี้ ในช่วงฤดูหิมะตกทุกคนจะได้เล่นสกีหลบหลีกต้นไม้และพบกับอุโมงค์ต้นไม้อันงดงาม แต่ที่สำคัญ ที่โจษขานกัน นั่นก็คือจะได้พบกับต้นไม้ปีศาจที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและเกิดเป็นรูปร่างต่างๆ

ในช่วงฤดูปกติที่นี่จะมีกิจกรรมการปีนเขาหรือการไต่เขา  โดยที่จะใช้เส้นทาง ของกระเช้า เป็นจุดเดินทางและเป็นจุดสังเกตเส้นทาง  การเดินไต่เขา  เพื่อขึ้นไปชมทัศนียภาพบนเขาจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง  ซึ่งการเดินเขาด้วยเท้าจะมีข้อดีตรงที่เราจะสามารถได้พบเห็นทัศนียภาพที่ใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ใบหญ้า พื้นดินที่เกิดจากภูเขาไฟภายใต้ภูเขา  และข้ามแม่น้ำด้วยการไต่บันไดข้ามไป

หมู่บ้านดั้งเดิมชื่อดัง “ชิราคาวะโก