ยามากุจิสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรมองข้าม
ยามากุจิสถานที่ท่องเที่ยวไม่ควรมองข้าม
จะมีสักกี่คนที่รู้จักจังหวัดยามากุจิ ภูมิภาคชูโกกุ ตั้งอยู่ที่เกาะฮอนชู ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะ ซึ่งเป็นสถานที่ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอาคารบ้านเรือน สถานที่ท่องเที่ยวโบราณ หรือสิ่งก่อสร้างสวยงาม อีกแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ถ้าสนใจอยากจะปักหมุดมายามากุจิ สถานที่น่าสนใจมีดังนี้
1.สะพานไม้ คินไตเคียว
สะพานแห่งนี้ ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น สถานที่ตั้งและเดินเที่ยวสะพานแห่งนี้คือที่เมืองอิวะคุนิ เป็นสะพานที่สร้างด้วยไม้การออกแบบของสะพานจะทำให้มีลักษณะโค้ง ซึ่งจะมีจำนวนทั้งหมด 5 โค้ง ทอดยาวให้คนได้เดินข้ามชมทัศนียภาพทั้งภูเขา สายน้ำ รวมไปถึงดอกซากุระในช่วงซากุระบาน เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ถ่ายรูปออกมาได้สวยงาม
2. วัดพุทธ รูริโคจิ เจดีย์ 5 ชั้น
วัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังเนื่องจากมีเจดีย์ 5 ชั้นที่สร้างด้วยไม้ต่อการขึ้นไป อย่างสวยงามตามแบบฉบับการสร้างแบบโบราณของญี่ปุ่น วันนี้มีชื่อว่า วัดรูริโคจิ ซึ่งเป็นวัดศาสนาพทธ และนอกจากเจดีย์ 5 ชั้นที่สวยงามแล้วธรรมชาติของที่นี่ก็ยังเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจีและลำธารที่มองดูแล้วรู้สึกสงบนิ่ง เย็นสบาย
ภายในวัดจะมีพิพิธภัณฑ์พี่อาจจะไม่ได้ใหญ่โตมาก ภายในพิพิธภัณฑ์จะเป็นการจำลองเจดีย์ ของประเทศญี่ปุ่นเอาไว้มากมาย ซึ่งพิพิธภัณฑ์จะมีค่าเข้าชม 300 เยนเปิดตั้งแต่ 9:00 น ถึง 17:00 น
3.สะพานทอดยาว สึโนะชิมะ
สะพานแห่งนี้มีความยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นระยะทางที่ยาวไกลมาก เปิดให้รถวิ่งข้ามเกาะเพื่อไปท่องเที่ยว นอกจากการที่จะได้ขับรถข้ามเกาะไปได้อย่างง่ายดายแล้ว ก็ยังสามารถชื่นชมกับวิวทะเลภูเขาและต้นไม้ที่สวยงามได้อีกต่างหาก แต่ถ้าหากว่าไม่สะดวกที่จะชมวิวระหว่างขับรถ ลองหาที่จอดรถใกล้ๆ เพื่อที่จะขึ้นไปยังจุดชมวิวข้างๆ สะพานก่อนก็ได้ เผื่อจะได้รูปสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกเพิ่มอีกสักหน่อย
4. ถ้ำหินปูนอากิชิโด
ถ้าแห่งนี้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เพราะปกติแล้วถ้าเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น มักจะท่องเที่ยวในสถานที่ที่เป็นวัดวาอาราม ศาลเจ้าหรือบ้านเรือนโบราณ แหล่งช้อปปิ้ง แต่จะไม่ค่อยได้มีโอกาสท่องเที่ยว ท่ามกลางธรรมชาติที่สร้างสรรค์เอาไว้ อย่างเช่นถ้ำแห่งนี้ และแม้ว่าถ้ำแห่งนี้จะมีขนาดยาวถึง 9 กิโลเมตรแต่สถานที่แห่งนี้ก็เปิดให้เข้าชมและท่องเที่ยวได้เพียง 1 กิโลเมตรเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง และเพื่อเป็นการอนุรักษ์ ทำให้คงอยู่ในสภาพเดิมให้มากที่สุด ในพื้นที่อื่นที่เหลือจึงจำเป็นต้องปิดเส้นทางไว้ก่อน
