มารยาทในการกิน โอมากาเสะ ที่ญี่ปุ่น
มารยาทในการกิน โอมากาเสะ ที่ญี่ปุ่น
โอมากาเสะก็จัดว่าเป็นอาหารที่มีจุดขายในด้านการบริการแก่ผู้ที่สนใจในการรับประทานอาหารญี่ปุ่น ซึ่งตรงนี้ยังมีบางคนที่ไม่เข้าใจว่าโอมากาเสะคืออะไร เพราะบางคนยังเข้าใจว่าโอมากาเสะและซูชิคืออาหารชนิดเดียวกัน
แต่ในความจริงแล้วโอมากาเสะน่าจะเป็นลักษณะของวิธีการรับประทานอาหารมากกว่า เพราะโอมากาเสะจะเป็นสไตล์การเสิร์ฟอาหารแบบตามใจเชฟตามใจพ่อครัว โดยที่เชฟจะมีการจัดทำอาหารให้แก่เราเป็นเซต โดยที่เราเองก็จะไม่ทราบว่ามีอะไรอยู่ในเซ็ตบ้างแต่เราก็พอจะทราบว่าเราจะได้วัตถุดิบประเภทไหน
ถ้าหากเราต้องการกินอาหารแบบโอมากาเสะ เราแค่เพียงสังเกตว่าวัตถุดิบของร้านอาหารแห่งนั้นมีอะไรเป็นหลักและประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ก็พอจะเดาได้ว่าวันนั้นเราจะได้อาหารชนิดไหน
“ส่วนซูชิต่างหากที่เป็นชื่อของอาหาร” และเมื่อเราไปกินโอมากาเสะ ก็มักจะมีการเสิร์ฟซูชิ ซะเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้มีบางคนเข้าใจว่า โอมากาเสะ คืออีกชื่อเรียกหนึ่งของซูชิ แต่จริง ๆ แล้ว ใน Set ของโอมากาเสะ จะมีซูชิหน้าต่าง ๆ และรสชาติหลากหลายนั่นเอง
เหตุผลที่โอมากาเสะส่วนใหญ่มีราคาแพงเนื่องจากพ่อครัวจะใช้วัตถุดิบชั้นดี จัดให้เป็นเซตใหญ่ หลากหลาย ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับสไตล์ของทางร้านอาหารด้วย
มารยาทในการกินโอมากาเสะที่ญี่ปุ่น
1.ควรจะมีการโทรจองล่วงหน้า
ไม่ควรคะยั้นคะยอ ขอให้ทางร้านจัดโต๊ะขายให้เรากระทันหันมากเกินไป และถ้าหากเราแพ้อาหารชนิดไหน ควรแจ้งกับทางร้านและเซฟไว้ก่อน หรือถ้าเราชอบหรือไม่ชอบอาหารชนิดไหนลองสอบถามและปรึกษาทางร้านได้
2.นี่คือเกม
ลูกค้าต้องเข้าใจว่าการเข้ามากินโอมากาเสะ คืออรรถรสในการสร้างสรรค์ด้านการกินเป็นเทคนิคการกินผสมการเล่นเกมอย่างหนึ่งซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเราจะได้กินอะไรในมื้อนั้น ดังนั้นปกติแล้วจะไม่มีลูกค้าคืนอาหาร
3.ไม่ส่งเสียงดัง
ไม่ทำลายบรรยากาศสงบของทางร้าน เพราะปกติร้านโอมากาเสะ มักจะรับลูกค้าน้อย เพื่อที่พ่อครัวหรือแม่ครัวจะมีเวลาจัดทำอาหารเซ็ทใหญ่ให้แก่ลูกค้า ที่ต้อนรับในวันนั้นได้ เมื่อมีคนจำนวนน้อยบรรยากาศจึงค่อนข้างจะไม่อึกทึก
4.ไม่ควร Cancel ที่นั่งหรือการจอง
อย่างที่บอกว่าร้านขายโอมากาเสะจะไม่รับลูกค้าเยอะ แต่จะใช้วัตถุดิบเยอะ หากเรายกเลิกการจอง จะทำให้ทางร้านขาดรายได้