มันเผาญี่ปุ่น

มันเผาญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นนิยมทานมันหวานญี่ปุ่นมาช้านาน ซึ่งเป็นอาหารที่ถือว่าดีต่อสุขภาพด้วย เพราะให้พลังงานที่เหมาะสม อิ่มนาน แต่ไม่สะสมในร่างกายนานจนเกินไป กล่าวง่าย ๆ คือ เปลี่ยนเป็นไขมันได้ช้านั่นเอง

มันเผาญี่ปุ่น

วิธีการทานมันหวานญี่ปุ่นสามารถทำได้ทั้งการต้มและการเผา แต่ที่นิยมมากที่สุดคือการเผามากกว่า

ในอดีต มันหวานญี่ปุ่นมักนิยมทานกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เหตุผลที่ฟังดูน่ารัก นั่นเพราะเมื่อมีใบไม้ที่ร่วงหล่นและเหี่ยวแห้งจำนวนมาก จึงต้องกำจัดใบไม้ด้วยการนำมาสุมรวมกันแล้วเผาใบไม้ทิ้ง ครั้นเมื่อจะเผาใบไม้เฉย ๆ ก็กระไรอยู่ จึงนำมันหวานมาเผาด้วยซะเลย ถือเป็นการจัดการบริหารแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

แต่ทว่าต่อมาความนิยมการทานมันหวานญี่ปุ่นได้เปลี่ยนมานิยมทานกันในฤดูหนาวและเปลี่ยนจากการเผามันด้วยใบไม้มาเป็นการเผาด้วยฟืนถ่านและหินกลมจากแม่น้ำแทนเนื่องจากทางประเทศญี่ปุ่นได้ออกกฏหมายห้ามทำการเผาใบไม้หรือสิ่งของใดๆเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากไฟไหม้และมลพิษจากควันไฟอีกด้วย

มันเผาญี่ปุ่น

เหตุผลหนึ่งที่มันหวานญี่ปุ่นมักนิยมทานด้วยการเผามากกว่าการต้ม นั่นเพราะจะได้รสชาติที่ต่างกันอย่างชัดเจน เพราะการเผาเท่านั้นที่จะทำให้มันญี่ปุ่นมีรสชาติหวานเหมือนมันเชื่อมโดยที่ไม่ต้องใส่น้ำตาลลงไปในเนื้อมันเลย แต่ถ้าเป็นการต้ม จะได้เพียงรสชาติของมันเทศธรรมดาเท่านั้นเอง ความมหัศจรรย์ของมันหวานญี่ปุ่นก็อยู่ตรงที่ความหวานเหมือนกับถูกปรุงด้วยการเชื่อมจากน้ำตาล โดยที่แท้จริงเพียงแค่ทำการเผาด้วยความร้อนเท่านั้นเอง มันหวานที่นิยมทานกันมักจะนิยมเผาด้วยหินกลม เพราะจะมีการกระจายความร้อนอย่างทั่วถึงแต่ไฟไม่แรงมากเกินไป  ทำให้ยังได้เนื้อมันค่อนข้างเยอะ  หรือจะเรียกว่าการใช้ความร้อนจากหินอบหัวของมันญี่ปุ่นนั่นเอง

แต่ถ้าหากซื้อมันญี่ปุ่นสดติดตู้เย็นเอาไว้แล้วอยากเผาทานเอง ก็สามารถใช้วิธีการอบด้วยเตาอบได้ เพียงแต่เราจะได้มันญี่ปุ่นที่ผิวค่อนข้างแห้งและเหี่ยวและสูญเสียปริมาณเนื้อของมันญี่ปุ่นไปค่อนข้างเยอะ อรรถรสในการรับประทานและกลิ่นหอมก็จะแตกต่างจากการเผาด้วยหินหรือฟืนอีกด้วย

ปัจจุบัน มันหวานญี่ปุ่น นอกจากจะเป็นที่นิยมชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นแล้ว ยังเป็นที่นิยมของชาวเกาหลี จีน ประเทศไทย หรือแม้แต่อเมริกาอีกด้วย โดยเฉพาะสายลดความอ้วนหรือควบคุมน้ำหนัก มักจะนิยมทานกันแทนข้าวหรือแป้งขัดขาว

นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ต้องหาโอกาสลิ้มลอง มันหวานญี่ปุ่นของแท้ต้นตำรับให้ได้เชียวนะ รับรองต้องติดใจ จนอยากกลับไปอีกแน่นอน ซึ่งเมื่อมาถึงถิ่นต้นกำเนิด ก็หาซื้อทานกันไม่ยาก เพราะมีขายกันทั้งแบบรถเข็นโบราณ ซึ่งก็ทำให้ได้อรรถรถแบบชาวญี่ปุ่นดั้งเดิม ได้เซลฟี่กับรถเข็นขายมันเผาดูเท่ไม่เบา และแบบร้านแผงลอยและร้านคาเฟ่ ซึ่งจะนั่งทานที่ร้าน ถ่ายรูปเก๋  ๆ หรือเดินทานพร้อมกับเดินท่องเที่ยวในย่านช็อปปิ้งด้วยก็ได้ ตามสะดวก

ซึ่งมันหวานญี่ปุ่น  ไม่ได้มีแค่สีม่วงที่เห็นส่วนใหญ่ แต่ยังมีหลากหลายสายพันธุ์ หลายสี ดังนี้

  • อันโนอิโมะ (Anno Imo) มีสีส้มกลาง ๆ
  • เพอร์เพิ้ล สวีท โร้ด ( Purple sweet road) มันหวานสีม่วง
  • เบนิฮารุกะ (Beni Haruka ) สีขาวเหลือง
  • ฮัลโลวีน สวีท (Haloween Sweet) สีส้มฟักทองอเมริกา
  • ซิลล์ สวีท (Silk Sweet) สีขาวนวล
  • นารุโต คินโทคิ ซาโตะ มูซาเมะ (Naruto Kintoki Sato Musame) สีเหลืองทองคำ
  • นินจินอิโมะ (Ninjin Imo) สีส้มแครอท
  • มิยาซากิเบนิ (MiyaZaki Beni) สีแดง

 

อุด้ง