ซาชิมิของญี่ปุ่น
ซาชิมิของญี่ปุ่น
“ซาซิมิ” แตกต่างจาก “ซูชิ” เพราะจริงๆแล้วซาชิมิก็คือการแร่เนื้อปลาและการตัดแต่งเนื้อปลาแบบสดๆ ส่วนซูชิก็คือการถนอมอาหารในอดีตนั่นก็คือการถนอมเนื้อปลาเพื่อให้มีโปรตีนกินในช่วงฤดูหนาวโดยใช้ข้าว น้ำส้มสายชู และเกลือ ในการหมักเนื้อปลาเอาไว้ให้กินได้นาน ๆ ซึ่งก็เป็นต้นกำเนิดของปลาส้มแบบไทยๆนั่นเอง
แต่ซาชิมิไม่เหมือนกับซูชิตรงที่ว่า ซาชิมิจะเป็นการรับประทานเนื้อปลาสด ๆ ซึ่งในอดีตทางประเทศญี่ปุ่นหากหาปลาได้ ก็จะทำการแร่เนื้อปลาสดๆ ทันที แล้ววางเอาไว้บนน้ำแข็งหรือหิมะโดยที่ปลาไม่เน่าเสีย ส่วนที่ต้องกินเนื้อปลาดิบเหตุผลหนึ่งนั่นอาจจะเป็นเพราะความหิวโหยในอดีตและอีกปัจจัยหนึ่งคือ ในการที่ต้องออกไปหาปลาไกล ๆ ในฤดูหิมะ ไม่สะดวกก่อไฟในการปรุงสุกด้วยนั่นเองจึงต้องกินเพื่อความอยู่รอด ซึ่งเนื้อปลาซาชิมิที่ทานได้สด ๆ นั้น เนื้อปลาจะแตกต่างจากประเทศไทย เพราะปลาของทางญี่ปุ่นแม้จะทานสด ๆ แต่จะไม่มีกลิ่นคาว
ส่วนประเทศไทยที่มีอาหารที่ทานได้สด ๆ ก็จะเป็นประเภทพล่ากุ้งหรือยำกุ้งเต้น หรือหอยนางรมสดนั่นเอง ซึ่งเมื่อเวลาที่รับประทานเข้าไปก็ไม่ได้มีกลิ่นคาวและมีรสชาติอร่อยมากด้วย อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่าซาชิมิจะแตกต่างกับซูชิก็ตาม แต่อดีตการกินซูชิก็มีหลายครั้งที่มักจะใช้เนื้อปลาสดๆ เป็นหน้าซูชิแล้วทานร่วมกัน ซึ่งก็เป็นความชอบส่วนบุคคล และนี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่มีคนเข้าใจผิดคิดว่า ซาชิมิ คือ ซูชิ
ทุกวันนี้ ซาชิมิ อาจมีคน กินน้อยลง เพราะมีสูตรอาหารมากมายที่ได้รับความนิยม การกินจึงเปลี่ยนไป แต่ในปัจจุบันนี้การรับประทานเนื้อปลาดิบก็ยังเห็นว่าจะอาจจะมีอยู่บ้าง เพราะก็ยังมีผู้ที่ชื่นชอบเนื้อปลาที่หวานสดอยู่ แม้จะมีไม่มากก็ตาม ซึ่งในสมัยใหม่การเก็บรักษาเนื้อปลาสดจะสะอาดกว่าการเก็บรักษาเนื้อปลาสดในอดีตแน่นอน
ส่วนการรับประทานเนื้อปลาซาชิมินั้น ความสำคัญที่ทำให้เนื้อปลามีรสชาติอร่อย คือจะต้องแร่ปลาด้วยมีดที่คมจริงๆ หากแร่ด้วยมีดที่ไม่คม เนื้อปลาไม่เนียนบาง เนื้อปลาที่ได้จะไม่มีคุณภาพทำให้เนื้อปลาเละ ไม่อร่อยเลย
การค้นพบวิธีแร่ปลาซาซิมินั้น ค้นพบในสมัยที่เริ่มเข้าสู่ยุคซามูไร ซึ่งเป็นยุคที่มีการผลิตดาบซามูไรขึ้นมา จึงทำให้มีการใช้ดาบซามูไรแร่เนื้อปลานั่นเอง