ซากะ เมืองน่าเที่ยวในญี่ปุ่นที่พลาดไม่ได้
ซากะ เมืองน่าเที่ยวในญี่ปุ่นที่พลาดไม่ได้
ซากะ มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังหลายแห่ง แล้วยังมีวิวทิวทัศน์ที่เป็นตัวชูโรงในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมจะมีแหล่งท่องเที่ยวที่ไหนน่าสนใจบ้าง วันนี้เรามีแนะนำ
1.ศาลเจ้าโฮโต
ศาลเจ้าโฮโต ตั้งอยู่ที่เมืองคารัตสึ เป็นศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความสมหวังในด้านโชคลาภ ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ ปี 1574 เหตุผลที่ศาลแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาก็เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานระลึกและอุทิศให้แก่ โนซากิ สึนะโยชิ ซึ่งเป็นวีรบุรุษปกป้องชาวบ้านจากโจรสลัดในอดีต ความหมายของศาลเจ้าแห่งนี้หมายถึงถูกรางวัล จึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศาลเจ้าแห่งโชคลาภนั่นเอง
2.ปราสาท คารัตสึ
ปราสาทเก่าแก่แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ ปี 16 08 แต่ในปี 1966 ได้มีการบูรณะปราสาทขึ้นใหม่ ภายในตัวปราสาทด้านบนเป็นจุดชมวิวที่มองออกไปจะเห็นทะเลสวยงาม
3.ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ
ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ เป็นศาลเจ้าโบราณ โดยตัวอาคารจะถูกสร้างในรูปแบบของโบราณในอดีต จุดเด่นของอาคารหลังนี้ก็คือจะเป็นสีทองโดดเด่นท่ามกลางต้นไม้สีเขียวมากมาย ศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1687 เป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริ ที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวเชิญแวะมาขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เพื่อชื่นชมตัวอาคารของศาลเจ้าที่มีสีแดงอันทรงพลังกันได้เลย
4.ศาลเจ้าโออุ
ศาลเจ้าโออุ เป็นศาลเจ้าที่อยู่กลางทะเล โดยศาลเจ้าแห่งนี้มีจุดเด่นตรงเสาโทริอิ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางผิืนทะเล โดยมีตำนานเล่าขานกันมาว่า เมื่อในอดีตนับได้ประมาณ 300 ปีกว่าโน้น มีคนคนหนึ่งที่เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลหมู่บ้านถูกทอดทิ้งไว้บนเกาะ แต่กลับมีชีวิตเดินทางกลับมาได้ด้วยการขี่บนหลังปลากลับมายังหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ผู้นี้จึงได้สร้างศาลเจ้าเพื่อเป็นการขอบคุณ
5.นาขั้นบันได คารัตสึ
ที่ คารัตสึ ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่มีธรรมชาติที่สวยงามและโด่งดังในเรื่องของนาขั้นบันได โดยนักท่องเที่ยวสามารถเลือกชมนาขั้นบันไดได้ 2 แห่ง นั่นก็คือ นาขั้นบันไดฮามาโนะอุระ และ นาขั้นบันไดโออุระ ซึ่งมีความงดงามทั้ง 2 ที่ วิวดีธรรมชาติสวยพอๆกัน
6.ถ้ำนานะสึกามะ
ถ้ำนานะสึกามะ อยู่ทางเหนือของริมทะเลจังหวัดซากะ ถ้ำแห่งนี้อยู่บนทะเลซึ่งมีลักษณะแปลกตา เพราะเป็นหินผาที่มีลักษณะเป็นริ้วยาวเล็กๆหลายชั้น โดยสามารถที่จะนั่งเรือสำราญรอดๆอุโมงค์หินผานี้ซึ่งถือว่าเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยประวัติของหินผานี้เกิดจากลาวาที่มีการระเบิดของภูเขาไฟนั่นเอง
